ทำไมบอลแต่ละลีกมีสไตล์การเล่นที่ต่างกัน

บอล

สไตล์การเล่น ที่แตกต่างของแต่ละลีกฟุตบอลนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใดครับ แต่เป็นเพราะปัจจัยที่ผสมกันหลายด้าน ทั้งประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ รวมถึงโค้ชที่พัฒนาระบบการสอนมารุ่นสู่รุ่นที่แตกต่างกัน จึงทำให้สไตล์การเล่นมีความต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ

ยกตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น : จะมีลักษณะที่คล้ายกันมา เวลาเล่นลีกญี่ปุ่นก็มักจะออกต่ำแทบทุกคู่ มันเป็นเพราะคนญี่ปุ่นทำตามกรอบที่ถูกฝึกมาอย่างเคร่งครัดครับ มันก็เลยเล่นเหมือนๆกันหมด จนถึงขั้นต้องรับนักเตะต่างชาติที่มีความคิดพลิกแพลง ความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นเข้ามาเสริมทัพ เป็นต้นครับ

เหตุผลที่บอลแต่ละลีกมีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนกัน

  1. รากฐานและวัฒนธรรมฟุตบอลของประเทศนั้น
  • แต่ละประเทศมี “รากการเล่น” ที่ฝังรากมานาน เช่น:
    • อังกฤษ (พรีเมียร์ลีก): เน้นความเร็ว เกมเปิด จังหวะเข้าปะทะหนัก
    • อิตาลี (เซเรีย อา): เด่นเรื่องแท็กติก เกมรับแน่น วินัยสูง
    • สเปน (ลา ลีกา): เล่นบอลบนพื้น เทคนิคดี เน้นครองบอล
    • เยอรมัน (บุนเดสลีกา): เกมเร็ว เน้นพละกำลังและระบบทีมเวิร์ก
    • ฝรั่งเศส (ลีกเอิง): เทคนิคเฉพาะตัวเยอะ มีผู้เล่นที่เร็วและคล่องตัว
  1. ระบบพัฒนาเยาวชน
  • สิ่งที่แต่ละประเทศ “ปลูกฝังตั้งแต่เด็ก” จะสะท้อนออกมาในลีก
  • เยอรมันมีระบบการฝึกที่เข้มงวด เน้นวินัยและโครงสร้างทีม
  • สเปนมักเน้นการเล่นบอลสั้น จ่ายบอลไว ควบคุมเกม
  • บราซิล – แม้ไม่ใช่ลีกยุโรป แต่มีชื่อเรื่อง “ความพลิ้ว” เพราะปลูกฝังความสร้างสรรค์
  1. โค้ชและปรัชญาการทำทีม
  • โค้ชชั้นนำในแต่ละลีกมีสไตล์แตกต่าง และมักส่งอิทธิพลต่อทั้งลีก
  • เช่น เป๊ป กวาร์ดิโอลา มีอิทธิพลทำให้หลายทีมในพรีเมียร์ลีกเริ่มเล่นแบบ “ครองบอล” มากขึ้น
  • โค้ชอิตาลีขึ้นชื่อเรื่องเกมรับและการเล่นอย่างมีระบบ
  1. ลักษณะของแฟนบอล
  • แฟนบอลอังกฤษชอบเกมที่รวดเร็ว เร้าใจ → ทีมจึงมักเล่นแบบบุกแลก
  • แฟนอิตาลีชื่นชมเกมรับที่แข็งแกร่ง → ทีมจึงเน้นวินัยเกมรับ
  • สเปนมีวัฒนธรรมฟุตบอลแบบ “บอลเท้าสู่เท้า” → ครองบอล, สร้างสรรค์
  1. สภาพอากาศและสภาพสนาม
  • ประเทศที่อากาศร้อน เช่น สเปน หรืออิตาลี → มักเล่นช้าลง เน้นจังหวะ ไม่เน้นพละกำลังตลอดเกม
  • ประเทศที่ฝนตกบ่อย อากาศเย็น เช่น อังกฤษ → เกมเร็ว, บู๊ดุดัน, ส่งยาวเป็นระยะ ๆ
  1. ความเป็นธุรกิจและระดับการแข่งขัน
  • ลีกที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนสูง (เช่น พรีเมียร์ลีก) มักดึงนักเตะและโค้ชจากหลากหลายสไตล์เข้ามา ส่งผลให้มี “ความหลากหลาย”
  • ลีกที่เน้นพัฒนาเยาวชนภายใน (เช่น บุนเดสลีกา) จะมีเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจน

ใครชอบดูบอลน่าจะเข้าใจได้เลยว่าความแตกต่างของการเล่นมันเห็นได้ชัดมากครับ และใครชอบดูบอล อย่าลืมเข้ามาดูบอลฟรีที่ Globalball นะครับ ดูฟรีทุกคู่ที่มีถ่ายทอดสด แถม แทงบอลได้ด้วย การันตีด้วยใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายครับ